วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555

Capote (2005)




Capote (2005)

ปี 1959 ทรูแมน คาโพที (ฟิลิป เซมัวร์ ฮอฟแมน) วัย 35 ปี มีชื่อเสียงในแวดวงวรรณกรรมอเมริกัน ในฐานะนักเขียนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ผลงานของเขามีทั้งเรื่องสั้น นิยาย บทละคร และบทภาพยนตร์ ในเวลานั้นเขากำลังหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ขึ้นอีกสักชิ้น
วันหนึ่ง คาโพทีอ่านพบข่าวการฆาตกรรมอำมหิตในเมืองฮัลคอมบ์ รัฐแคนซัส บนหน้าหนังสือพิมพ์ เนื้อข่าวระบุว่าเหยื่อมีอยู่ด้วยกัน 4 ราย เป็นสมาชิกครอบครัวชาวไร่นิสัยดีนาม คลัตเตอร์ คือ นายและนางคลัตเตอร์ กับลูกสาวและลูกชายวัยรุ่นของพวกเขา ตำรวจไม่พบหลักฐานใดๆ ในที่เกิดเหตุ ไม่พบแรงจูงใจที่ทำให้เกิดการฆ่ายกบ้านครั้งนี้ และแน่นอนไม่มีร่องรอยของผู้ต้องสงสัย
คาโพทีพบว่าเรื่องราวดังกล่าวช่างน่าสะเทือนใจ และเขาสนใจจะนำมันมาถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือ คาโพที จึงชักชวน ฮาร์เปอร์ ลี เพื่อนนักเขียนชื่อดัง เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อหาข้อมูลแวดล้อมของเหตุการณ์เท่าที่จะทำได้
ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบตัวผู้ต้องสงสัย เป็นชายหนุ่ม 2 คน คือ ริชาร์ด ฮิกค็อก และ เพอร์รี สมิธ ทั้งคู่ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือสังหารครอบครัวคลัตเตอร์จริง จึงถูกควบคุมตัวไว้เพื่อรอการดำเนินคดีต่อไป
ทันทีที่รู้ข่าว คาโพที รีบวิ่งเต้นจนในที่สุดก็ได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์ผู้ต้องหาทั้งสองเป็นการส่วนตัว สิ่งที่ คาโพที ไม่เคยคาดคิดมาก่อน คือ ในเวลาต่อมา เขารู้สึกผูกพันกับหนึ่งในผู้ต้องหา คือ เพอร์รี สมิธ เป็นพิเศษ เป็นความเข้าใจและความเห็นใจที่สร้างความรู้สึกขัดแย้งต่อ คาโพที อย่างรุนแรง เพราะในอีกด้านหนึ่ง ตัวเขาเองทราบดีว่า เพอร์รี สมิธ ไม่สามารถเป็นอะไรอื่น นอกจากฆาตกรเลือดเย็น และวัตถุดิบชั้นยอดในงานเขียนอันยิ่งใหญ่ของเขา ซึ่งเขาได้ตั้งชื่อมันว่า อิน โคลด์ บลัด (In Cold Blood) เท่านั้น


สร้างจากเรื่องจริงของ ทรูแมน คาโพที นักเขียนชาวอเมริกัน ซึ่งมีชีวิตอยู่ในระหว่างปี 1924 – 1984 ผลงานที่โด่งดังของคาโพที เช่น นิยาย Other Voices, Other Room (1948) นิยาย The Grass Harp (1951) บทภาพยนตร์ Beat the Devil (1954) และ นิยายขนาดสั้น Breakfast at Tiffany's (1958) ซึ่งต่อมาถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ นำแสดงโดย ออเดรย์ เฮปเบิร์น

เหตุการณ์ในเรื่องนี้ คือช่วงที่ ทรูแมน คาโพที กำลังหาข้อมูลสำหรับงานเขียนชิ้นหนึ่ง ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นงานชิ้นสำคัญและกล่าวได้ว่ามีชื่อเสียงที่สุดของเขา นั่นคือ In Cold Blood (1965)

ทรูแมน คาโพที ได้บัญญัติศัพท์ขึ้นใหม่คำหนึ่งเพื่อใช้อธิบายงานเขียน In Cold Blood ศัพท์คำดังกล่าวคือ Non-Fiction Novel หมายถึง งานเขียนที่อิงข้อมูลจากความเป็นจริง เช่นเดียวกับข่าวหรือสารคดี แต่ใช้รูปแบบการเขียนของนิยายในการดำเนินเรื่อง

In Cold Blood ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 1967 ซึ่งหาดูไม่ง่ายนักในไทย แต่สำหรับหนังสือนั้นมีฉบับแปลภาษาไทย ใช้ชื่อว่า ฆาตกร ผู้แปลคือ โรจนา นาเจริญ

ฮาร์เปอร์ ลี ในเรื่องนี้ แท้จริงแล้วก็คือผู้เขียนนิยาย To Kill A Mocking Bird (1960) ที่ทำให้ลีได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ในปี 1961 และอีก 1 ปีหลังจากนั้น ก็ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ มี เกรกอรี เป็ก รับบทนำ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ถึง 8 สาขา

เรื่องนี้เข้าฉายที่อเมริกาในวันที่ 30 กันยายน ซึ่งเป็นวันเกิด ของ ทรูแมน คาโพที

บางส่วนของพนักงานรักษาความปลอดภัยของเรือนจำในภาพยนตร์ เป็นเจ้าหน้าที่จริงๆ จากศูนย์ เฮดดิ้งเลย์ คอร์เรกชั่นแนล (Headingley Correctional Center)

ช่างภาพที่ชื่อ ริชาร์ด อเวดัน ในเรื่อง แสดงโดยตากล้องตัวจริงของเรื่องนี้ที่ชื่อ อดัม คิมเมล

ฟิลิป เซมัวร์ ฮอฟฟ์แมน ต้องลดน้ำหนักลง 40 ปอนด์เพื่อรับบทในเรื่องนี้

ใช้เวลา 36 วันในการถ่ายทำภาพยนตร์

Nacho Libre (2006)



Nacho Libre (2006)

นาโช่ (แจ็ค แบล็ค) คือผู้ชายที่ไร้ความสามารถ หลังจากเติบโตมาในโบสถ์เม็กซิกันแห่งหนึ่ง บัดนี้ เขากลายเป็นผู้ใหญ่และกลายเป็นพ่อครัวประจำโบสถ์ แต่ดูเหมือนเขาไม่เหมาะกับงานนี้สักเท่าไหร่ นาโช่มีความห่วงใยอย่างลึกซึ้งต่อพวกเด็กกำพร้าที่เขาต้องทำอาหารให้กิน แต่อาหารของเขาอยู่ในระดับย่ำแย่ ซึ่งถ้าคุณถามเขา มันเป็นผลของส่วนผสมแย่ๆ นาโช่รู้ดีว่าเขาต้องวางแผนหาเงินเพื่อนำมาจัดซื้ออาหารที่ดีขึ้นให้กับพวกเด็กกำพร้าทั้งหลาย “ผู้ไม่มีอะไรเลย” (...และถ้าในการทำเช่นนั้น จะทำให้นาโช่สามารถสร้างความประทับใจให้กับซิสเตอร์เอนคาร์นาเซียนที่น่ารัก ก็ถือว่าเป็นผลประโยชน์เพิ่มเติม)

เมื่อนาโช่เกิดไอเดียในการหาเงินด้วยการเป็นนักมวยปล้ำลูชา ลิเบร่ เขาพบว่าเขามีพรสวรรค์ในกีฬามวยปล้ำอยู่ในตัว เมื่อจับทีมกับคู่หูแปลกแหวกแนวอย่างเอสเคลีโต้ (เจ้าโครงกระดูก) นาโช่รู้สึกว่านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขามีบางสิ่งให้ต่อสู้เพื่อให้ได้มา และได้พบที่ที่เหมาะสมกับตัวเขา

เมื่อลูชากลายเป็นสิ่งต้องห้ามตามคำสั่งของบรรดาผู้อาวุโสประจำโบสถ์ นาโช่ถูกสถานการณ์บีบให้ต้องมีชีวิตสองรูปแบบ เขาต้องปกปิดตัวตนที่แท้จริงด้วยการใส่หน้ากากสีฟ้า เมื่อเขาขึ้นเวทีต่อสู้กับเหล่านักมวยปล้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดของเม็กซิโก และออกเดินทางผจญภัยที่แสนสนุกสนานเพื่อทำให้ชีวิตที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามีความสุขมากขึ้นสักเล็กน้อย

Colombiana (2011)



Colombiana (2011)


เมื่อความแค้นสอนให้เธอฆ่า และอดีตสั่งให้เธอล่าแบบ Non-Stop โดยผู้เขียนบท Taken และผู้ให้กำเนิด "นิกิต้า" และ "นักฆ่าลีออง"
คาตาลีย่า (โซอี้ ซัลดาน่า) หญิงสาวที่สั่งสมความแค้นมาตั้งแต่ได้เห็นพ่อแม่ถูกฆาตกรรมต่อหน้าด้วยวัย เพียง 10 ขวบ ด้วยใบสั่งเก็บตายจากฝีมือของอาชญากรตัวเอ้แห่งประเทศโคลัมเบีย คาตาลีย่า รอดมาได้ด้วยความบังเอิญ และแม้จะมีทางเลือกที่จะเดินสู่ชีวิตคนธรรมดา แต่เด็กหญิงคนนั้นกลับเลือกที่จะอุทิศชีวิตทั้งหมดเพื่อล้างบัญชีเลือดให้ พ่อแม่ โดยมี เอมิลิโอ ลุงของเธอก็เป็นคนฝึกฝนให้เธอเป็นนักฆ่าสุดอันตราย เพื่อรับมือกับอิทธิพลทุกรูปแบบของคนที่สั่งสังหารทำลายครอบครัวของเธอ และเพื่อเติมความไม่ธรรมดาให้กับฉากแอคชั่น ลุค แบซง เลือก โอลิเวียร์ เมกาตัน (Transporter 3) มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยร่วมมือกับผู้รับผิดชอบฉากสตันท์จาก The Bourne Ultimatum เพื่อให้ฉากดูดุดันและเร้าใจ โดยกว่า 98 % โซลอี้ แสดงฉากแอคชั่นด้วยตัวเอง

วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555

Sideways



Sideways

ภาพยนตร์เรื่อง Sideways เริ่มเรื่องราวด้วยการออกเดินทางเพื่อเที่ยวชิมไวน์ของสองเพื่อนเก่า... ที่หันเหเปลี่ยนทิศอย่างวุ่นวายแบบหลบๆ เลี่ยงๆ (Sideways) ไปสู่การค้นหาที่ลดเลี้ยว ทว่าเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ของความแปรปรวนที่บ้าคลั่ง ในเรื่องความรักและมิตรภาพ การยืนหยัดของความว้าเหว่ และความฝันอันน่าเบื่อหน่าย และการต่อสู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น ระหว่างปิโนต์กับคาเบอร์เนต์

ความโชคไม่ดีเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ไมลส์ (พอล จิอาแมตติ) พ่อม่ายที่อก หักไม่ยอมคลาย ซึ่งเป็นว่าที่นักเขียนนิยายผู้คลั่งไคล้ไวน์ ตกลงใจที่จะให้รางวัลกับเพื่อนเก่าสมัยเรียนวิทยาลัย ซึ่งเป็นนักแสดงไฟมอด แจ็ค (โทมัส เฮเดน เชิร์ช) ด้วยการเดินทางไปฉลองที่โรงบ่มไวน์แถวชายฝั่งทะเลตอนกลาง ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าวันแต่งงานของแจ็ค ทั้งสองเป็นคู่หูที่แปลกไม่มีใครเกิน แจ็คเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์เซ็กซ์จัด - ไมลส์เป็นคนขี้กังวลซึมเศร้า... แจ็คมองหา "รสชาติแห่งอิสรภาพครั้งสุดท้าย" ไมลส์ หวังเพียงแต่ว่าจะไม่รู้สึกห่อเหี่ยวไปมากกว่าเดิม... แจ็ครู้สึกดีกับเมอร์ล็อตราคาถูก - ไมลส์แสวงหาปิโนต์ที่มีรสเลิศ อันที่จริงแล้ว อย่างเดียวที่พวกเขามีเหมือนกัน ก็คือความใฝ่ฝันที่ล้มเหลว และวัยเด็กที่กำลังจางหายไป

ถึงกระนั้น เมื่อพวกเขาเดินทางไปถึงชายฝั่ง ไม่นานต่อมาไมลส์และแจ็คก็พบว่า พวกเขากำลังมึนเมากับไวน์และสาวๆ สเตฟานี (แซนดร้า โอ) และ มายา (เวอร์จิเนีย แมดเส็น) เมื่อแจ็คต้องหัวปักหัวปำกับสาวรินไวน์พื้นเมือง และขู่จะล้มเลิกงานแต่งงาน ไมลส์ก็พยายามที่จะดึงเพื่อนไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง แต่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของตัวไมลส์เองกับสาวเสริฟผู้มาดมั่นมั่น ก็ก่อกวนเสียจนทำให้ทั้งสองหนุ่มล้มคว่ำไม่เป็นท่า เมื่อต้องกลับมาสู่ความเป็นจริงอย่างทันด่วน

ตอนนี้ เมื่องานวิวาห์ใกล้เข้ามา และความไม่แน่นอนที่ว่าไมลส์และแจ็ค อาจกลับมาลอสแอนเจลิสไม่ทันเวลา โดยไม่บาดเจ็บหรือเปลี่ยนไป... ถ้าหากว่าพวกเขามาถึงได้แบบครบสามสิบสอง

Miles Raymond (Paul Giamatti) is an unsuccessful writer, a wine-aficionado, and a depressed middle school English teacher living in San Diego, who takes his soon-to-be-married actor friend and college roommate, Jack Cole (Thomas Haden Church), on a road trip through Santa Ynez Valley wine country. Miles wants to relax and live well. However, Jack wants one last sexual fling.

In the wine country, the men encounter Maya (Virginia Madsen), a waitress at Miles's favorite restaurant, The Hitching Post, and her friend, Stephanie (Sandra Oh), an employee at a local winery. They arrange a double date without revealing that Jack is to be married. Jack has an affair with Stephanie while Miles tries to connect with Maya.

Maya finds out Jack is to be married and tells Stephanie, who attacks Jack, breaking his nose. Miles gets drunk at a wine tasting room, and Jack links up with another woman. To explain the broken nose to his fiancée, Jack runs Miles's car into a tree. At the wedding, Miles faces the fact that his ex-wife will never return to him. Alone, he drinks his prized wine, a 1961 Château Cheval Blanc. Later, he receives a message from Maya, who says she enjoyed his manuscript and invites him to visit. The last scene in the movie shows Miles back in Santa Ynez, knocking on Maya's door.

วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555

Mr. and Mrs. Incredible (2011)



Mr. and Mrs. Incredible (2011)


2 จอมยุทธเจ้า แห่งยุทธจักร ปล่อยพลังฮา ง้างขากรรไกร
ผงาดติดชาร์ต เปิดตัวทั่วเอเซีย 300 ล้านบาท
Mr.กู่เทียนเล่อ ปล่อยพลังฮาหยุดโลก & Mrs.อู๋จินหยู๋ รับมุขมันส์กลางยุทธภพ
คาราวะความฮาโดย ผู้กำกับคู่บุญ "โจวซิงฉือ"
ขากรรไกรสั่นสะท้านปฐพี

ความรักไม่ใช่เรื่องง่าย... โดยเฉพาะกับซุเปอร์ฮีโร่ หวน หรือ “เดอะ เกเซอร์ วอร์ริเออร์” (กู่เทียนเล่อ) ตกหลุมรักกับ เร้ด หรือ “เดอะ อาโรม่า วูแมน” (อู๋จินหยู) ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังทำภารกิจ แต่ด้วยหน้าที่ของซุปเปอร์ฮีโร่นั้นก็หมายถึงเวลาที่ไม่ค่อยมีให้กัน ประกอบกับความเบื่อจากการกำจัดเหล่าร้าย พวกเขาตัดสินใจหนีไปอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ และเริ่มใช้ชีวิตครอบครัวด้วยกัน

เวลาผ่านไป 5 ปี หวน และ เร้ด ดูเหมือนจะได้ทุกสิ่งที่ตัวเองต้องการ นั้นคือชีวิตที่เงียบสงบและมีความสุข แต่เมื่อคุณเป็นซุปเปอร์ฮีโร่แล้ว มันก็ไม่มีทางสงบสุข... เมื่อทางการได้ประกาศว่าจะจัดประลองยุทธในเมืองที่ทั้งสองอาศัยอยู่ ทันใดนั้นหมู่บ้านอันแสนเงียบสงบก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน เมื่อยอดฝีมือเดินทางมารวมตัวกันทั้งประเทศ ซึ่งทั้งหมดก็ต้องการที่จะเป็นผู้ชนะการประลองยุทธเพื่อการเป็นเจ้ายุทธภพ

หวน และ เร้ด ต่างเก็บความลับในเรื่องตัวตนที่แท้จริงของตนเอง พวกเขาวางแผนที่จะย้ายเมืองอีกครั้ง แต่แล้ว หวน ก็เข้าไปพัวพันกับการตายของผู้ชนะในการแข่งขันแต่ละปี และเมื่อทั้งสองค้นพบตัวตนที่แท้จริงของผู้อยู่เบื้องหลังแล้ว หวน และ เร้ด ก็ตัดสินใจกลับไปสวมชุดเก่ง เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงและรักษาความยุติธรรมอีกครั้ง



August (2008)



August (2008)

ปี 2001 มีเหตุการณ์ช็อกโลกในเดือนกันยายน แต่สำหรับ „ทอม สเตอร์ลิ่ง“.(จอช ฮาร์ทเน็ตต์).ก่อน จะถึงกันยายนในปีนั้นชีวิตของเขาพลิกผันเหมือนสวรรค์เป็นนรกในเดือนสิงหาคม เพียงเดือนเดียว ธุรกิจเวบไซต์ start-up.com ที่เขากับน้องชาย „โจชัว สเตอร์ลิ่ง“.(อดัม สก๊อตต์).ร่วม กันผลักดันจนใกล้จะได้ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์คต้องมีอันวิกฤต กะทันหัน เมื่อลูกค้ารายใหญ่ถอนตัวกลางคัน มูลค่าของหุ้นหล่นวูบ สำหรับทอมในฐานะซีอีโอ เขาจำเป็นต้องยื้อชีวิตธุรกิจของตัวเองไว้ด้วยการหานักลงทุนรายใหม่และ.หาความช่วยเหลือให้เร็วก่อนสิ่งที่สร้างมาทั้งชีวิตจะพังครืน และ.เวลาของเขามีเพียงไม่พ้นเดือนเท่านั้นเอง



Gantz 2: Perfect Answer(สาวกกันสึ พิฆาตเต็มแสบ)



Gantz 2: Perfect Answer(สาวกกันสึ พิฆาตเต็มแสบ) 

กันสึ มีหน้าที่มาออกคำสั่งควบคุมพวกเขาให้ต้องไปสู้รบเพื่อกำจัดเอเลี่ยนส์ด้วย อาวุธร้ายแรง และภารกิจนี้จะต้องทำให้สำเร็จเพื่อสะสมแต้มให้ครบ 100 แต้ม นั่นคือหนทางเดียวที่จะทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากอำนาจของกันสึ โดยพวกเขาไม่มีทางเลือกว่าจะกลับไปมีชีวิตดั่งเดิมได้หรือไม่? สมรภูมิรบที่ ไม่มีที่สิ้นสุดในภาค 2 นี้ Gantz Perfect Answer คูโรโน่ และ คาโต้ ต้องกลับมาร่วมต่อสู้ในสมรภูมิเดือดอีกครั้ง แต่ในช่วงเวลาที่คับขันขนาดนี้ คูโรโน่ กลับมีความรักกับ เตอิ รับบทโดย ยูริโกะ โยชิตากะ และ เตอิ ก็คือเป้าหมายของทีมสังหาร ที่ทีมสังหารทุกคนต้องออกล่าเตอิเพื่อเก็บแต้ม แต่คูโรโน่ต้องหยุดยั้งพวกเขาไว้ให้ได้ ความรัก ความถูกต้อง หรือ ภาระกิจ อะไรจะสำคัญกว่ากัน!! ”




Wrecked ผ่ากฏล่าคนลบอดีต


เรื่อง ราวของชายคนหนึ่ง ที่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางกองซากรถในหุบเขาลึกแห่งหนึ่งตัวเขาได้รับบาดเจ็บที่ ขา และเมื่อมองรอบๆตัวก็พบว่าคนรอบข้างที่อยู่ด้วยได้ตายหมดแล้วและตัวเขาเองก็ ความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้เลยอีกด้วย จำไม่ได้แม้กระทั่งตัวเอง ชาย หนุ่มพยายามเอาตัวรอดจากการใช้ชีวิตอยู่ในป่าตามลำพัง และจากบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บและเมื่อเขาได้ฟังข่าวจากวิทยุในรถ ซึ่งกำลังรายงานถึงคนร้ายที่หลบหนีการจับกุมอยู่ซึ่งเมื่อพิจารณาจากหลังฐาน รอบตัวเขาในตอนนี้แล้วทำให้เขาคิดว่า คนร้ายที่กำลังหลบหนีอยู่นั้น อาจเป็นเขาก็ได้